เจาะลึกทีมชาติ ซาอุดิอาราเบีย Group A มหาสงคราม ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018
ซาอุดิอาราเบีย
ทีมสุดท้ายของกลุ่ม A ซาอุดิอาราเบีย แม้จะเป็นเต้ยใหญ่ของน้องในเอเชีย แต่พอไปถึงเวทีระดับโลกแล้วนั้นพวกเค้ากับทำผลงานไม่ค่อยจะเป็นที่น่าประทับใจสักเท่าไรนัก พวกเค้าหายหน้าไปจากเวทีฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายสองครั้งล่าสุด แต่ไงยังทีมสิงห์ทะเลทรายทีมนี้ ก็ยังเคยผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกถึงสี่ครั้งด้วยกัน แต่ถ้าจะพูดถึงความสำเร็จระดับทวีปเอเชียนั้น ซาอุดิอาราเบีย ก็ยังคงเป็นทีมแข็งแกร่งที่ใครยากจะเอาชนะได้ในแถบเอเชีย พวกเขาเคยเป็นแชมป์ เอเชี่ยนคัพถึง 3 สมัยด้วยกัน
รายชื่อนักเตะที่ได้เล่นรอบสุดท้าย (พร้อมทีมต้นสังกัด)
ผู้รักษาประตู : ยาสเซอร์ อัลโมซาเลม(อัล อาลี) , อัซซาฟ อัลควานี่(อัล เอติฮัต) , อับดุลเลาะห์ อัลมายุฟ(อัล ฮาลาล) , โมฮัมเหม็ด อัลโอวาอิซ(อัล อาลี)
กองหลัง : โอซมา ฮัลซาวี่(อัล ฮาลาล) , โอมา ฮัลซาวี่(อัล นาเซอร์) , มานซอร์ อัลฮาบี(อัล ฮาลาล) , ยาสเซอร์ อัลชานี่(อัล ฮาลาล) , โมทาส ฮัลซาวี่(อัล อาลี) , ซาอิด อัลโมวาราต(อัล อาลี) , โมฮัมเหม็ด อัลเบรอิต(อัล ฮาลาล) , โมฮัมเหม็ด จาฟาไล(อัล ฮาลาล) , อาลี อัลบูราฮี(อัล ฮาลาล)
กองกลาง : ไทเซอร์ อัลจั๊ดซิม(อัล อาลี) , ยาย่า อัลเชอรรี่(เลกาเนส) , นาวาฟ อัลอเบ็ต(อัล ฮาลาล) , ฟาฮัต อัลมูวาราต(เลบันเต้) , อามาน อัลฟาราจ(อัล ฮาลาล) , อับดุล มาเร็ค อัลไคบี(อัล ฮาลาล) , ฮาเล็ม อัลดาซาลี่(บียาร์เรอัล) , ฮุซซัน อัลโมกาวี(อัล อาลี) , อับดุลเลาะห์ โอเต(อัล ฮาลาล) , โมฮัมเหม็ด คันโน(อัล ฮาลาล) , โมฮัมเหม็ด อัลควิกบี(อัล เอติฟัจต์) , อับดุลเลาะห์ อัลไคบารี่(อัล ชาบัพ) , ฮัตตัน บราฮิบรี(อัล ชาบัพ)
กองหน้า : โมฮัมเหม็ด อัลเชราวี่(อัล นาเซอร์) , มูฮันนาซ อัซซิรี่(อัล อาลี)
ผู้จัดการทีม : ฮวน อันโตนิโอ ปิซซี่ (สเปน)
อันดับโลก : 70
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : โมฮัมเหม็ด อัลเชราวี่(อัล นาเซอร์)
อัตราการต่อรองการเป็นแชมป์ (วิลเลี่ยมฮิลล์) : 1000/1 แทง 1 จ่าย 1000 ไม่รวมทุน
เกียรติประวัติในฟุตบอลโลก : ผ่านเข้าเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 5 ครั้ง , สถิติที่ดีที่สุดคือ การเข้าถึงรอง 16 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 1994 ที่สหรัฐอเมริกา
ในครั้งนี้ซาอุดิอาราเบีย ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแบบใจหายใจคว่ำอยู่เหมือนกัน เพราะมีคะแนนเท่ากับออสเตรเลีย ที่ 19 คะแนน แต่ประตูด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าจึงเข้ารอบเป็นอันดับที่สองตามญี่ปุ่นไป ส่งออสเตรเลียไปเพลย์ออฟกับฮอนดูรัสแทน แม้จะเข้ารอบเป็นอันดับที่สอง แต่พวกเค้ายิงไปถึง 17 ประตู ในการลงเล่น 10 นัด และเสียไปเพียง 10 ประตูเท่านั้นเอง และยังมีตำแหน่งดาวซัลโวของกองหน้าตัวเก๋าของพวกเค้าอย่าง โมฮัมเหม็ด อัลเชราวี่ พ่วงท้ายมาอีกด้วย อัลเซราวี่ ซัดไปทั้งหมด 16 ประตู ซึ่งซาอุดิอาราเบีย ยิงได้ทั้งหมด 16 ประตูในรอบคัดเลือก!!! เรียกได้ว่าแทบจะเหมาคนเดียวเลยก็ว่าได้ แต่ในครั้งนี้พวกเค้าค่อนข้างโชคไม่ดีสักเท่าที่จับสลากมาเจอทีมแกร่งอย่างอุรุกวัย , อียิปต์ และทีสำคัญยังเจอกับรัสเซียเจ้าภาพอีกด้วย แม้ว่าจะมีการเตรียมรับมือทีมสามทีมดังนั้นด้วยการส่งผู้เล่นตัวหลังถึง 9 ตัวไปร่วมฝึกซ้อมในลาลีกาลีก ของสเปน แต่ซาอุดิอาราเบียในชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าเป็นรองอีกสามทีมในกลุ่มนี้เป็นอย่างมาก ก็ต้องหวังพึ่งเกมรับ แล้วโต้กลับ หาจังหวะสวยสักครั้งก็อาจจะพอมีโอกาสอยู่บ้าง แต่โดยส่วยตัวของผู้เขียนแล้วนั้น คิดว่าซาอุดิอาราเบีย คงเป็นได้แค่ไม้ประดับในฟุตบอลโลกที่รัสเซียอย่างแน่นอน
ความน่าจะเป็น : ตกรอบแรกเป็นแน่แท้ ^-^ แม้ว่าจะเป็นทีมสุดแกร่งในแถบทวีปของเรา แต่ว่าเมื่อก้าวเข้าไปสู่เวทีโลก พวกเขาก็ยากจะที่โชว์ฟอร์มได้ ถึงแม้จะมี อัลเซราวี่ ที่กวาดคนเดียวในรอบคัดเลือกไป 16 ประตู แต่นั่นก็ทำให้เราเห็นได้ว่า ตัวเล่นอื่นๆ แทบจะผลงานในการจบสกอร์ได้เลย แน่นอนว่าเมื่อเจอกับทีมใหญ่ อัลเซราวี่ จะกลายเป็นตัวที่ถูกประกบติดจนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย และคงต้องกลับบ้านโดยที่ไม่สามารถเก็บแต้มได้เกิน 3 คะแนนแน่นอน
ตาราง เวลา และสนามที่ใช้ในการแข่งขัน
นัดที่ 1 ซาอุดิอาราเบีย VS รัสเซีย วันที่ 14 มิถุนายน 2561 เวลา 22.00 น. สนาม ลุซกินี่สเตเดี้ยม
นัดที่ 2 ซาอุดิอาราเบีย VS อุรุกวัย วันที่ 20 มิถุนายน 2561 เวลา 01.00 น. สนาม รอสตอฟ ออน ดอน
นัดที่ 3 ซาอุดิอาราเบีย VS อียิปต์ วันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 21.00 น. สนาม โวลโกการ์ด