เจาะลึกทีมชาติ ออสเตรเลีย Group C มหาสงคราม ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018
ออสเตรเลีย
พี่เบิ้มอีกทีมหนึ่งของโซนเอเชีย ซึ่งเมื่อก่อนนั้นออสเตรเลียนั้นอยู่ในโซนโอเชียเนีย และเคยเป็นแชมป์ โอเฟซีเนชั่นคัพถึง 4 สมัยด้วยกัน และเมื่อปี 2006 พวกเค้าจึงได้ย้ายมาเล่นอยู่ในโซนเอเชีย และก็ผงาดคว้าแชมป์เมเจอร์ใหญ่อย่างเอเชี่ยนคัพมาครองได้ 1 สมัยในปี 2015 ซึ่งในยุคนั้นมีนักเตะชื่อดังที่เล่นอยู่ในสโมสรชั้นนำของยุโรป อยู่ในทีมมากมาย เช่น แฮรี่ คีเวลล์ , ทิม เคฮิลล์ และมาร์ค ชวาร์เซอร์ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันผู้เล่นเหล่านี้เหลือเพียงแค่ ทิม เคฮิลล์ เท่านั้น ก็ต้องดูกันต่อไปนะครับว่า เบิร์ต ฟาน มาร์ไวด์ ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันจะทำให้ออสเตรเลียไปไกลได้เพียงใด ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้ งั้นเราไปดูสภาพความพร้อมล่าสุดของทีมกันดีกว่าครับ
รายชื่อนักเตะที่ได้เล่นรอบสุดท้าย (พร้อมทีมต้นสังกัด)
ผู้รักษาประตู : แบรด โจนส์(เฟยานูร์ด) , แดนนี่ วูโควิช(เก็งค์) , แมทธิว ไรอัน(ไบรตัน โฮล์ฟ อัลเบี้ยน)
กองหลัง : อาซิซ บิไฮซ์(บูร์ซาสปอร์) , มิลอส เดเกเน็ก(โยโกฮาม่า มารินอส) , แมทธิว เจอร์แมน(ซูวอน ซัมซุง บลูวิงส์) , ฟราน ลาคาซิซ(โลโคโมติว่า) , เจมส์ เมเรดิท(มิลวอลล์) , จอช ริสดอน(เวสต์เทิร์น ซิดนี่ย์ วันเดอร์เรอร์ส) , เทรน เซนบิวรี่(กลาสฮอปเปอร์)
กองกลาง : โจชัว บิลลานเต้(ซิดนี่ย์ เอฟซี) , แจ๊คสัน เออร์วิน(ฮัลล์ ซิตี้) , ไมล์ด เจดินัค(แอสตัน วิลล่า) , มัสซิโม่ ลูออนโก(ควีนพาร์คเรนเจอร์ส) , มาร์ค มิลลิแกน(อัล อาลี) , อารอน มัวร์(ฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์) , ทอม โรจิก(กลาสโกล์ว เซลติก) , เจมส์ ทรอยส์ซี่(เมเบิร์น วิคตอรี่) , ดาเนี่ยล อัลซานี่(เมลเบิร์น ซิตี้) , ดิมิทรี่ เปรตาทอส(นิวคาสเซิล เจ็ทส์)
กองหน้า : ทิม เคฮิลล์(ไร้ต้นสังกัด) , โทมี่ จูริช(ลูเซิร์น) , ร็อบบี้ ครูซ(โบคุ่ม) , แมทธิว เลคกี้(แฮรธ่า เบอร์ลิน) , แอนดริว แน็บบัลท์(อุราวะ เรด ไดมอนด์) , นิกิต้า ลูคาวิสย่า(มัคคาบี้ ไฮฟา)
ผู้จัดการทีม : เบิร์ต ฟาน มาร์ไวด์(เนเธอร์แลนด์)
อันดับโลก : 40
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : อารอน มัวร์(ฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์)
อัตราการต่อรองการเป็นแชมป์ (วิลเลี่ยมฮิลล์) : 250/1 แทง 1 จ่าย 250 ไม่รวมทุน
เกียรติประวัติในฟุตบอลโลก : ทีมชาติออสเตรเลียนั้นเคยเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง , ผลงานที่ดีที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั้น คือได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพ , ผลงานในฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมานั้น พวกเค้าจอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้นเอง
ทีมชาติออสเตรเลียตัวแทนจากโซนเอเชียทีมนี้มีผลงานในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกครั้งนี้ไม่ค่อยดีนัก เพราะในรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายนั้นแม้ว่าพวกเค้าจะแพ้เพียงแค่นัดเดียว แต่เสมอไปมากถึง 4 นัดด้วยกัน และชนะไปทั้งสิ้น 5 นัด ยิงได้ยิงได้ 16 ประตู และเสียไป 11 ประตู (ทีมชาติไทยของเราก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วยนะครับ) มี 19 คะแนนเท่ากับซาอุดิอาราเบีย แต่ผลต่างประตูได้เสียนั้นน้อยกว่า จึงทำให้ออสเตรเลีย ต้องเหนื่อยไปเพลย์ออฟ กับ ซีเรีย ในโซนเอเชีย และต้องต่อไปเพลย์ออฟระหว่างทวีปฮอนดูรัสอีกครั้ง ถึงแม้จะเหนื่อยมากกว่าทีมอื่นแต่พวกเค้าก็ยังผ่านเข้ารอบมาได้สำเร็จ และแม้ในวัย 38 ปี ทิม เคฮิลล์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งตัวความหวังของทีมเสมอ แถมยังมีพลังหนุ่มอย่าง อารอน มัวร์ ที่ฟอร์มโดดเด่นกับต้นสังกัด และด้วยกุนซืออย่าง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวด์ ที่เคยพาเนเธอร์แลนด์ไปถึงนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกกับสเปนได้ในปี 2010 น่าจะทำให้ออสเตรเลียเป็นทีมที่มีทีเด็ดมากขึ้นก็เป็นได้
ความน่าจะเป็น : น่าจะเบียดแย่งตั๋วใบที่สองกับเดนมาร์ก และเปรูได้สนุกสุดมันอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าจะได้เฮดโค๊ชอย่าง เบิร์ต ฟาน มาร์ไวด์ มาคุมทีมแล้วนั้น ผมก็ยังคิดว่าทีมอย่างฝรั่งเศส และเดนมาร์กมีโอกาสมากกว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะจอดแค่เพียงรอบแรกของการแข่งขัน
ตาราง เวลา และสนามที่ใช้ในการแข่งขัน
นัดที่ 1 ออสเตรเลีย VS ฝรั่งเศส วันที่ 16 มิถุนายน 2561 เวลา 17.00 น. สนาม คาซาน
นัดที่ 2 ออสเตรเลีย VS เดนมาร์ก วันที่ 21 มิถุนายน 2561 เวลา 19.00 น. สนาม ซามาร่า
นัดที่ 3 ออสเตรเลีย VS เปรู วันที่ 26 มิถุนายน 2561 เวลา 21.00 น. สนาม โซชิ