เจาะลึกทีมชาติ โคลอมเบีย Group H มหาสงคราม ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2018
โคลอมเบีย
ทีมชาติโคลอมเบีย เป็นอีกหนึ่งตัวแทนจากโซนอเมริกาใต้ที่สามารถผ่านเข้ามาแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ ถ้าจะพูดถึงโคลอมเบียก็ต้องนึกถึงยุคทองของพวกเค้าในทศวรรษที่ 90 พวกเค้าเริ่มสร้างชื่อตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ และที่จะอดพูดถึงไม่ได้ก็คือท่าเซฟแมงป่องของ เรเน่ ฮิกิต้า ในฟุตบอลอุ่นเครื่องกับทีมชาติอังกฤษในปี 1995 ที่เค้าเซฟลูกยิงของเจมี่ เร็ดแน็ป สร้างออฟ ทอล์ก เดอะ ทาวน์ในยุคนั้นเป็นอย่างมากในส่วนของความสำเร็จในระดับเมเจอร์นั้นพวกเค้าเคยได้แชมป์โคปา อเมริกามาครองได้ 1 สมัยในปี 2001 งั้นเรามาดูสภาพความพร้อมของพวกเค้าก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่จะเริ่มขึ้นกันสักหน่อยดีกว่าครับ
รายชื่อนักเตะที่ได้เล่นรอบสุดท้าย (พร้อมทีมต้นสังกัด)
ผู้รักษาประตู : ดาวิด ออสปิน่า(อาร์เซน่อล) , คามิโล่ วาร์กาส(เดปอติโว คาลี) , โฮเซ่ เฟอร์นันโด กัวดาร์โด้(วันซ์ คัลดาส)
กองหลัง : คริสเตียน สปาร์ต้า(เอซี มิลาน) , ออสการ์ มูริลโล่(ปาชูก้า) , ซานติอาโก อาริอัส(พีเอสวี ไอโฮเฟ่น) , เยอร์รี่ มิน่า(บาร์เซโลน่า) , แฟรงค์ เฟบาร์(โบค่า จูเนียร์ส) , โยฮัน โมจิก้า(คิโรน่า) , ดาวินสัน ซานเชส(ทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ส)
กองกลาง : วิลมาร์ บาริออส(โบค่า จูเนียร์ส) , คาร์ลอส ซานเชส(ฟิออเรนติน่า) , อเบล อกีล่า(เดปอติโว คาลี) , เจมส์ โรดริเกรซ(บาเยิร์น มิวนิค) , ฮวน กัวร์ดาโด้(ยูเวนตุส) , ฮวน เฟอร์นันโด ควินเตโร่(ริเวอร์เพลท) , เจฟเฟอร์สัน เลอมาร์(เลบันเต้) , มัสธีอุส อูริเบ(คลับ อเมริกา)
กองหน้า : คาร์ลอส บัคก้า(บียาร์เรอัล) , ราดาเมล ฟานกัล(กัปตันทีม)(โมนาโก) , หลุยส์ มูเรียล(เซบีย่า) , มิเกล บอร์ก้า(พัลไมรัส) , โฮเซ่ อิซคิลโด้(ไบรตัน โฮล์ฟ อัลเบี้ยน)
ผู้จัดการทีม : โฮเซ่ เปเกอร์มัน(อาร์เจนติน่า)
อันดับโลก : 16
ผู้เล่นที่น่าจับตามอง : เจมส์ โรดริเกรซ(บาเยิร์น มิวนิค)
อัตราการต่อรองการเป็นแชมป์ (วิลเลี่ยมฮิลล์) : 28/1 แทง 1 จ่าย 28 ไม่รวมทุน
เกียรติประวัติในฟุตบอลโลก : ทีมชาติโคลอมเบียนั้นเคยผ่านเข้ามาแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกัน , ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเค้าในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย คือผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ 1 ครั้งในปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ ก่อนพ่ายให้กับบราซิลเจ้าภาพไป 1-2 ประตู
ผลงานในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ผ่านมานั้นถือว่าเอาตัวรอดมาได้แบบหวุดหวิดเลยทีเดียว พวกเค้าลงแข่งไปทั้งสิ้น 18 นัด ชนะไป 7 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ไปถึง 6 นัดด้วยกัน ยิงได้ 21 ประตู และเสียไป 19 ประตูแต่ยังดีที่คว้าอันดับที่ 4 มาครองได้สำเร็จ ส่งให้เปรูต้องไปเตะเพลย์ออฟแทน ถึงแม้ว่าจะมีผลงานที่ไม่น่าพิสมัยนัก แต่โคลอเบียก็ยังน่าจะเป็นทีมทีมีโอกาสเข้ารอบสูงอยู่เหมือนกัน โฮเซ่ เปเกอร์มัน กุนซือมากประสบการณ์ชาวอาร์เจนไตน์ ก็คงจะใช้เจมส์ โรดริเกรซ เป็นเพลย์เมคเกอร์ของเกม และทิ้งกองหน้าค่าเหนื่อยแพงอย่าง ราดาเมล ฟานกัลป์ ไว้ด้านหน้า เรียกได้ว่าก็ยังพอเป็นทีเด็ดทีขาดให้ทีมได้อยู่บ้างไม่มากก็น้อยละครับ
ความน่าจะเป็น : สมกับเป็น ‘กรุ๊ปออฟเดธ’ เลยครับ แทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลยจริงๆสำหรับกลุ่มนี้ แต่ถ้าให้ดูจากประสบการณ์ของผู้เล่นในระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ขนาดนี้ โคลอมเบียน่าจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าจะทำได้ดีและผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
ตาราง เวลา และสนามที่ใช้ในการแข่งขัน
นัดที่ 1 โคลอมเบีย VS ญี่ปุ่น วันที่ 19 มิถุนายน 2561 เวลา 19.00 น. สนาม ซารานซัค
นัดที่ 2 โคลอมเบีย VS โปแลนด์ วันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 01.00 น. สนาม คาซาน
นัดที่ 3 โคลอมเบีย VS เซเนกัล วันที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 21.00 น. สนาม ซามาร่า