พรีเมียร์ลีกเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่แฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย การแทงบอลพรีเมียร์ลีกถือเป็นกิจกรรมยอดฮิตสำหรับคอลูกหนังชาวไทย ด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น ทีมดังระดับโลกมากมาย และความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและการเดิมพัน
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมา ระบบการแข่งขัน และเสน่ห์ของพรีเมียร์ลีกที่ทำให้มันกลายเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการแทงบอลของคนไทย
จุดกำเนิดของพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีกไม่ได้เกิดขึ้นมาในชั่วข้ามคืน แต่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่สืบทอดมาจากระบบลีกฟุตบอลของอังกฤษ จุดเริ่มต้นของพรีเมียร์ลีกสามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 1889 เมื่อมีการก่อตั้งลีกฟุตบอลอาชีพแห่งแรกของโลกขึ้นในอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า “Division 1” ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศในขณะนั้น
ตลอดระยะเวลากว่าศตวรรษ Division 1 ได้พัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ผู้บริหารและสโมสรต่าง ๆ เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี 1992 จึงเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ เมื่อมีการประกาศการรีแบรนด์ Division 1 ให้กลายเป็น “พรีเมียร์ลีก” อย่างเป็นทางการ
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ การทำสัญญาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และการสร้างแบรนด์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งทำให้พรีเมียร์ลีกกลายเป็นลีกฟุตบอลที่ทันสมัยและมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้พรีเมียร์ลีกเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลกในเวลาไม่นาน
รูปแบบการแข่งขัน
หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้พรีเมียร์ลีกได้รับความนิยมอย่างสูงคือ รูปแบบการแข่งขันที่เข้มข้นและยุติธรรม โดยในแต่ละฤดูกาล จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 20 สโมสร ซึ่งแต่ละทีมจะต้องลงแข่งขันทั้งหมด 38 นัดต่อฤดูกาล โดยแบ่งเป็นการเล่นในบ้าน (เหย้า) 19 นัด และการเล่นนอกบ้าน (เยือน) อีก 19 นัด
ระบบการให้คะแนนของพรีเมียร์ลีกนั้นเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ
- ชนะ ได้ 3 คะแนน
- เสมอ ได้ 1 คะแนน
- แพ้ ไม่ได้คะแนน
ระบบนี้ส่งเสริมให้ทีมต่าง ๆ เล่นเชิงรุกและพยายามเอาชนะในทุก ๆ นัด เพราะการชนะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากกว่าการเสมอถึง 3 เท่า ซึ่งทำให้เกมการแข่งขันมีความสนุกสนานและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การที่ทุกทีมต้องเจอกันหมดทั้งเหย้าและเยือน ยังทำให้การแข่งขันมีความยุติธรรมสูง เพราะทุกทีมจะได้เผชิญหน้ากับคู่แข่งในสภาพแวดล้อมที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นทีมใหญ่หรือทีมเล็ก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรีเมียร์ลีกมีความน่าสนใจและไม่สามารถคาดเดาผลได้ง่าย ๆ
การตัดสินแชมป์และการตกชั้น
ในการตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีก ทีมที่มีคะแนนสะสมสูงสุดเมื่อจบฤดูกาลจะได้ครองแชมป์ ซึ่งนับเป็นเกียรติยศสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีทีมที่มีคะแนนเท่ากันเมื่อจบฤดูกาล จะมีการใช้เกณฑ์เพิ่มเติมในการตัดสิน โดยจะพิจารณาจาก
- ผลต่างประตูได้เสีย ทีมที่มีผลต่างประตูได้เสียดีกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
- จำนวนประตูที่ทำได้ หากผลต่างประตูได้เสียเท่ากัน ทีมที่ทำประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
ระบบนี้ทำให้ทุกประตูและทุกเกมมีความสำคัญ แม้ว่าทีมจะนำห่างคู่แข่งแล้วก็ตาม พวกเขาก็ยังต้องพยายามทำประตูเพิ่มเพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าแชมป์ในกรณีที่มีคะแนนเท่ากันในตอนจบฤดูกาล
ในขณะเดียวกัน การตกชั้นก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในพรีเมียร์ลีก โดย 3 ทีมสุดท้ายของตารางคะแนนเมื่อจบฤดูกาลจะต้องตกชั้นไปเล่นใน Championship ซึ่งเป็นลีกระดับรองลงมา ระบบนี้ทำให้การแข่งขันในช่วงท้ายฤดูกาลมีความเข้มข้นไม่แพ้การแย่งแชมป์ เพราะทีมที่อยู่ในโซนท้ายตารางต่างต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดจากการตกชั้น
ด้วยระบบการแข่งขันที่เข้มข้นและน่าตื่นเต้นเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่พรีเมียร์ลีกจะกลายเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการแทงบอลของคนไทย เพราะทุกนัด ทุกประตู และทุกคะแนนล้วนมีความหมายและส่งผลต่อการแพ้ชนะในการเดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นการแทงผลแพ้ชนะ การแทงสกอร์ หรือแม้แต่การแทงแชมป์ลีกในระยะยาว พรีเมียร์ลีกก็มอบความตื่นเต้นและโอกาสในการทำกำไรให้กับนักพนันได้อย่างครบถ้วน
โครงสร้างลีกฟุตบอลอังกฤษ
ระบบลีกฟุตบอลอังกฤษสามารถมองเป็นพีระมิด โดยมีพรีเมียร์ลีกอยู่บนยอดสุด และลีกอื่น ๆ เรียงลำดับลงมาตามระดับความสำคัญ ซึ่งประกอบไปด้วย
- พรีเมียร์ลีก (Premier League) นี่คือลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ เป็นเวทีที่รวมทีมชั้นนำของประเทศไว้ด้วยกัน ในแต่ละฤดูกาล จะมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม แต่ละทีมจะต้องแข่งขันทั้งหมด 38 นัด (พบกันหมดทั้งเหย้าและเยือน) เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์และสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลยุโรป
- แชมเปียนชิป (Championship) นี่คือดิวิชัน 2 ของฟุตบอลอังกฤษ มีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 24 ทีม ลีกนี้มีการแข่งขันที่ดุเดือดไม่แพ้พรีเมียร์ลีก เพราะทุกทีมต่างมุ่งหวังที่จะก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุด ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้ตกชั้นลงไป
- ลีก 1 (EFL League 1) เป็นดิวิชัน 3 ของระบบลีกอังกฤษ มีทีมแข่งขันทั้งหมด 24 ทีมเช่นเดียวกับแชมเปียนชิป ลีกนี้เต็มไปด้วยทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและแฟนบอลที่เหนียวแน่น หลายทีมเคยประสบความสำเร็จในอดีตและกำลังพยายามกลับสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง
- ลีก 2 (EFL League 2) นี่คือดิวิชัน 4 และเป็นลีกล่างสุดของระบบลีกอาชีพในอังกฤษ มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 24 ทีม แม้จะเป็นลีกระดับล่าง แต่การแข่งขันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าลีกอื่น ๆ เพราะทุกทีมต่างมีความฝันที่จะก้าวขึ้นสู่ลีกที่สูงขึ้นไป
ระบบลีกทั้ง 4 ระดับนี้ถือเป็นโครงสร้างหลักของฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ ซึ่งมีการเชื่อมโยงกันด้วยระบบการเลื่อนชั้นและตกชั้นที่ทำให้ทุกฤดูกาลมีความน่าตื่นเต้นและไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าทีมไหนจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว
ลีกนอกระบบอาชีพ
นอกเหนือจากลีกอาชีพทั้ง 4 ระดับแล้ว อังกฤษยังมีลีกนอกระบบอาชีพที่เชื่อมต่อกับระบบลีกหลัก ทำให้แม้แต่ทีมเล็ก ๆ ก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้ ลีกเหล่านี้ประกอบด้วย
- เนชันแนล ลีก (National League) เป็นลีกสูงสุดของระบบนอกลีกอาชีพ มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 24 ทีม ลีกนี้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างฟุตบอลอาชีพและกึ่งอาชีพ โดยทีมที่ชนะเลิศจะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นใน League 2
- เนชันแนล ลีก นอร์ธ (National League North) เป็นลีกระดับภูมิภาคในเขตเหนือของอังกฤษ มีทีมแข่งขัน 22 ทีม ลีกนี้รวมทีมจากภาคเหนือและภาคกลางตอนบนของอังกฤษ
- เนชันแนล ลีก เซาธ์ (National League South) เป็นลีกระดับภูมิภาคในเขตใต้ของอังกฤษ มีทีมแข่งขัน 22 ทีมเช่นเดียวกับ National League North ลีกนี้รวมทีมจากภาคใต้และภาคกลางตอนล่างของอังกฤษ
ลีกนอกระบบอาชีพเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบฟุตบอลอังกฤษ เพราะเป็นเวทีที่ให้โอกาสทีมเล็ก ๆ ได้พัฒนาตัวเองและก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งค้นพบนักเตะดาวรุ่งที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตอีกด้วย
ระบบการเลื่อนชั้นและตกชั้น
ระบบการเลื่อนชั้นและตกชั้นเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ฟุตบอลอังกฤษมีความน่าสนใจและตื่นเต้นอยู่เสมอ ระบบนี้ทำให้ทุกทีมมีโอกาสที่จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด หรือร่วงหล่นลงสู่ลีกล่างได้ตลอดเวลา โดยแต่ละลีกจะมีกฎการเลื่อนชั้นและตกชั้นที่แตกต่างกันไป
- พรีเมียร์ลีก 3 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน Championship
- แชมเปียนชิป 2 ทีมอันดับสูงสุดจะได้เลื่อนชั้นโดยตรง ส่วนทีมอันดับ 3-6 จะต้องเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเพื่อชิงโควตาเลื่อนชั้นอีก 1 ทีม ในขณะที่ 3 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน League 1
- ลีก 1 2 ทีมอันดับสูงสุดจะได้เลื่อนชั้นโดยตรง ส่วนทีมอันดับ 3-6 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเพื่อชิงโควตาเลื่อนชั้นอีก 1 ทีม ในขณะที่ 4 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน League 2
- ลีก 2 3 ทีมอันดับสูงสุดจะได้เลื่อนชั้นโดยตรง ส่วนทีมอันดับ 4-7 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเพื่อชิงโควตาเลื่อนชั้นอีก 1 ทีม ในขณะที่ 2 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน National League
- เนชันแนล ลีก ทีมชนะเลิศจะได้เลื่อนชั้นโดยตรง ส่วนทีมอันดับ 2-7 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเพื่อชิงโควตาเลื่อนชั้นอีก 1 ทีม ในขณะที่ 4 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นใน National League North หรือ South
- เนชันแนล ลีก นอร์ธ และ เซาธ์ 2 ทีมอันดับสูงสุดจะได้เลื่อนชั้นโดยตรง ส่วนทีมอันดับ 3-7 จะเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเพื่อชิงโควตาเลื่อนชั้นอีก 1 ทีม ในขณะที่ 3 ทีมสุดท้ายจะต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกระดับล่างลงไปอีก
ระบบการเลื่อนชั้นและตกชั้นนี้ทำให้ทุกเกมในทุกลีกมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นทีมที่อยู่อันดับต้น ๆ ของตาราง ที่ต้องรักษาฟอร์มเพื่อเลื่อนชั้น หรือทีมท้ายตารางที่ต้องดิ้นรนเพื่อหนีการตกชั้น ความตื่นเต้นนี้ส่งผลให้การแทงบอลในลีกอังกฤษทุกระดับมีความน่าสนใจ เพราะทุกเกมล้วนมีความหมายและมีผลต่อชะตากรรมของทีม
เหตุผลที่คนไทยนิยมแทงบอลพรีเมียร์ลีก
รูปแบบการเล่นและการแข่งขันที่ดุเดือด
พรีเมียร์ลีกมีชื่อเสียงในด้านรูปแบบการเล่นที่ดุดันและเร้าใจ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันระหว่างทีมใหญ่หรือการเผชิญหน้าระหว่างทีมเล็กกับทีมใหญ่ ทุกเกมในพรีเมียร์ลีกล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและไม่สามารถคาดเดาผลได้ง่าย ๆ
ลักษณะการเล่นที่เน้นความเร็ว พละกำลัง และเทคนิคระดับสูงทำให้เกมการแข่งขันมีความสนุกสนานและน่าติดตามตลอดทั้ง 90 นาที ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กเจอทีมใหญ่ หรือศึกใหญ่ระหว่างทีมยักษ์ ทุกเกมล้วนมีการรุกและรับที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมและเพิ่มความท้าทายสำหรับนักพนัน
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของผลการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกยังเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักพนัน เพราะแม้แต่ทีมที่อยู่อันดับท้ายตารางก็สามารถเอาชนะทีมจ่าฝูงได้ ความไม่แน่นอนนี้ทำให้การวิเคราะห์และการเดิมพันมีความท้าทายและน่าสนใจมากขึ้น
คุณภาพของนักเตะและทีม
พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่รวบรวมนักเตะระดับโลกจากทั่วทุกมุมโลก การได้เห็นซูเปอร์สตาร์จากลีกต่าง ๆ มาปะทะฝีเท้ากันในลีกเดียวกันเป็นสิ่งที่ดึงดูดแฟนบอลและนักพนันชาวไทย นักเตะเหล่านี้นำพาสไตล์การเล่นที่หลากหลายมาผสมผสานกัน ทำให้เกิดรูปแบบการเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจและไม่สามารถคาดเดาได้
นอกจากนี้ ทีมในพรีเมียร์ลีกยังมีโอกาสได้ไปเล่นในรายการระดับยุโรป เช่น UEFA Champions League หรือ UEFA Europa League ซึ่งเป็นเวทีที่ทำให้ทีมและนักเตะได้แสดงศักยภาพในระดับนานาชาติ การติดตามทีมจากพรีเมียร์ลีกในรายการเหล่านี้ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและโอกาสในการเดิมพันสำหรับนักพนันชาวไทย
ความสะดวกในการติดตามและแทงบอล
ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้พรีเมียร์ลีกได้รับความนิยมในหมู่นักพนันชาวไทยคือ ความสะดวกในการติดตามและการเข้าถึงข้อมูล ด้วยเหตุผลหลายประการ
- ช่วงเวลาแข่งขันที่เหมาะสมกับคนไทย เกมส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีกจะเริ่มแข่งขันในช่วงเวลาประมาณ 21:00 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยเกมที่เร็วที่สุดจะเริ่มประมาณ 18:30 น. และเกมดึกสุดจะอยู่ราว ๆ 02:30 น. ช่วงเวลานี้ถือว่าเหมาะสมสำหรับคนไทยที่ต้องการติดตามชมเกมการแข่งขันสด ไม่ว่าจะเป็นการดูหลังเลิกงานหรือในวันหยุดสุดสัปดาห์
- ความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษ คนไทยส่วนใหญ่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง ทำให้การติดตามข่าวสาร การอ่านบทวิเคราะห์ หรือแม้แต่การฟังการรายงานสดระหว่างการแข่งขันเป็นไปได้ง่ายขึ้น ความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลโดยตรงนี้ช่วยให้นักพนันชาวไทยสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจในการเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ความแพร่หลายของการถ่ายทอดสด พรีเมียร์ลีกเป็นหนึ่งในลีกฟุตบอลที่มีการถ่ายทอดสดอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ทั้งทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์ การที่สามารถรับชมเกมการแข่งขันสดได้อย่างง่ายดายนี้ทำให้นักพนันสามารถติดตามสถานการณ์และตัดสินใจในการเดิมพันได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการแทงบอลสด (Live Betting) ที่ต้องอาศัยการตัดสินใจอย่างรวดเร็วบนพื้นฐานของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเกม
- ความหลากหลายของตัวเลือกในการเดิมพัน เนื่องจากความนิยมของพรีเมียร์ลีก เว็บพนันบอลเกือบทุกเว็บจึงมีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลายสำหรับเกมในพรีเมียร์ลีก ไม่ว่าจะเป็นการแทงผลแพ้-ชนะ, การแทงสกอร์, การแทงแฮนดิแคป หรือแม้แต่การเดิมพันในรูปแบบพิเศษอื่น ๆ ความหลากหลายนี้ทำให้นักพนันมีโอกาสในการเลือกรูปแบบการเดิมพันที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และความเชี่ยวชาญของตนเอง
- ความน่าเชื่อถือของอัตราต่อรอง เนื่องจากพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่มีการเดิมพันจำนวนมาก อัตราต่อรองจึงมักจะสะท้อนความเป็นจริงของสถานการณ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ ทำให้นักพนันสามารถวางใจได้ว่าพวกเขากำลังเดิมพันบนพื้นฐานของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และลดโอกาสที่จะถูก “ปั่นราคา” จากเจ้ามือหรือโต๊ะบอล